คืนวันออกพรรษา ลุ้นระทึกกับ"บั้งไฟพญานาค"
ทุกๆปี ในคืนวันออกพรรษา หรือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11(ปีนี้ตรงกับวันที่ 23 ต.ค.) ณ ลำน้ำโขงรอยต่อจังหวัดหนองคายกับเมืองเวียงจันทน์ โดยเฉพาะที่ อ.โพนพิสัย จะเกิดปรากฏการณ์อันน่าพิศวงที่คนรู้จักกันดีในนาม“บั้งไฟพญานาค”
บั้งไฟพญานาค ในทรรศนะ ของนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
บั้งไฟพญานาค เรื่องราวอันน่าอัศจรรย์นี้เกิดขึ้นในวันมหาปวารณา ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ หรือตรงกับวันออกพรรษาของประเทศลาว ซึ่งวันออกพรรษาของไทย ถึงก่อนวันออกพรรษาของลาวหนึ่งวัน
เปิดใจคนเห็นพญานาค
เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๗ ข้าพเจ้าและ ครอบครัวได้เดินทางไปชมบั้งไฟพญานาคที่ อ.โพนพิสัย และทอดผ้าป่าที่ วัดอุทุมพร บ้านเดื่อ ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ของ อ.โพนพิสัย โดยมี จ่าสิบตำรวจใจ ผดุงผล ลูกน้องเก่าของสามีได้บอกบุญให้มาทอดผ้าป่าที่นี่
อู้ฮู..อื้อฮือ ( พญานาค ขั้วโลกเหนือ )
งูตัวใหญ่อย่างมหาศาล กำลังว่ายอยู่กลางแม่น้ำ เป็นงูยักษ์ตัวสีดำ มีอาการดำผุด ดำว่าย ขึ้นลง ขึ้นลงๆ ที่แสนจะแช่มช้อย เขาตาค้างไม่เคยเห็นงูอะไรที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้มาก่อน มันมีลักษณะที่แตกต่างจากอนาคอนด้าที่เขาเคยรู้จัก
พญานาค รวมรูปพญานาค บั้งไฟพญานาค เมืองพญานาค
พญานาค เป็นราชาแห่งงู จัดเป็นเดรัจฉานด้วย เพราะมีลำตัวไปทางขวางและไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา นาคแบ่งออกเป็น 4ตระกูลใหญ่
สะใภ้พญานาค
เรื่องราวชีวิตของสามศรี พี่น้องชาวลาว พี่สาวคนโต มีอาการแปลกประหลาด จนมีหมอไสยเวทย์บอกว่า เธอเคยเป็นสะใภ้ของพญานาค พี่สาวคนรอง เรือของเธอ มีแม่ย่านางถึงสอง 2 ตน สิงอยู่ และยังมาแสดงตนให้เธอเห็นอีก ส่วน น้องสาวคนสุดท้อง ต้องมามีชีวิตการครองเรือนที่เป็นทุกข์ อะไรคือต้นเหตุของเรื่องราวเหล่านี้...